ข้าพเจ้ารับทราบและเข้าใจดีแล้วว่า ไม่ว่าข้าพเจ้าจะให้ความยินยอมตามหนังสือฉบับนี้หรือไม่ก็ตาม การนำดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตามสัญญากู้ยืมเงินฉบับดังกล่าวไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมสรรพากรกำหนด
หมายเหตุ การนำดอกเบี้ยเงินกู้ยืมไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามเกณฑ์ของกรมสรรพการ จะได้สิทธิเฉพาะเงินกู้ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือก่อสร้างที่อยู่อาศัย หรือรีไฟแนนซ์หนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเท่านั้น หากเป็นเงินกู้อเนกประสงค์บ้านแลกเงิน (Cash to Home) หรือวงเงินกู้เพิ่มบนหลักประกันเดิม หรือวงเงินกู้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (MRTA) ฯลฯ จะไม่ได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีนี้
สัญญากู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป การที่ผู้มีเงินได้จะใช้สิทธิลดหย่อนได้นั้น จะต้องแจ้งความยินยอมแก่ธนาคารเพื่อให้นำส่งข้อมูลแก่กรมสรรพากร ดังนั้น กรณีผู้มีเงินได้ที่ไม่ให้ความยินยอม หรือเคยให้ แต่ขอเพิกถอนภายหลังนั้น หลักฐานที่เป็นหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (ล.ย.02) จะไม่สามารถนำมาใช้หลักฐานประกอบการใช้สิทธิลดหย่อนได้อีก
สัญญากู้ที่เกิดขึ้นก่อน 1 มกราคม 2564 ผู้มีเงินได้สามารถเลือกใช้สิทธิลดหย่อนได้ โดยวิธีใด วิธีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
1. แจ้งความยินยอมแก่ธนาคารเพื่อให้นำส่งข้อมูลแก่กรมสรรพากร ซึ่งผู้มีเงินได้ไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (ล.ย. 02) จากธนาคารเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอีกต่อไป หรือ
2. ผู้มีเงินได้สามารถใช้หลักฐานหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (ล.ย. 02) จากธนาคาร ตามเดิม